ธุรกิจของ COL ประกอบด้วย 4 กลุ่มหลัก คือ
1. ธุรกิจ Office Mate เป็นอันดับ 1 ของ Office Supplies ในประเทศ
2. ธุรกิจ B2S เป็นอันดับ 1 ของร้านหนังสือ, edutainment, stationery&lifestyle store
3. ธุรกิจ Online Shopping ดูแลในเครือ Central Group
4. ธุรกิจ Retail Technology & Digital agency ผ่านทาง Cenergy Innovation
ปัจจุบันมีร้านค้า Office Mate 58 Stores B2S 94 Stores ศูนย์กระจายสินค้า (DC) 25,000 ตร.ม. รถจัดส่งมากกว่า 200 คัน
ธุรกิจ OFM
อัตรา Success Rate ของการแจก Catalogs แจกไปแล้วกลับมาซื้อสินค้าสูงกว่า 35%
ปรับ website เฟอร์นิเจอร์พร้อมทั้งพัฒนาสินค้ากลุ่มเฟอร์นิเจอร์มากขึ้น ทำให้ยอดขายกลุ่มนี้เติบโต 20 - 30%
พัฒนา Mobile App เชื่อม Store และการสั่งซื้อ Online เข้าด้วยกัน
ปรับ Stores ให้เจ้าของธุรกิจมาเดินมากขึ้นช่วยเพิ่มยอดขายได้ ทำการทดลองเปิดสาขาขนาดเล็กพื้นที่ประมาณ 100 ตร.ม. ที่ BIGC หัวหมาก เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2016
ภายใน 1 - 2 ปีคาดว่าสามารถทำ Omni Channel สมบูรณ์แบบได้
ธุรกิจ B2S
ปี 2015 เป็นปีที่ดีมากของ B2S
พัฒนา Digital Content มีบูธสำหรับดาวน์โหลด e-book อยู่ใน Stores ของ B2S
เพิ่ม Lifestyle Product ทำให้แม้ยอดขายของ B2S เติบโตไม่มากประมาณ 5 - 6% แต่อัตราการทำกำไรดีขึ้นมาก
พัฒนา The 1 Book ไปสู่ e-library สำหรับลูกค้าองค์กร บริษัทลูกค้าสามารถเลือกหนังสือที่อยู่ใน e-library ให้พนักงานอ่านได้ โดย B2S เก็บค่าใช้จ่ายประมาณ 400 - 600 บาทต่อคนต่อปี
เน้น Activities ใน Stores
ธุรกิจ Online
ปลายปี 2015 พัฒนา Click&Collect ปัจจุบันให้บริการได้ประมาณ 20 สาขา ลูกค้าสามารถสั่งซื้อผ่านเว็บแล้วไปรับสินค้าได้ที่ Stores จะพัฒนา Click&Collect ไปกับศูนย์การค้าในเครือทั่วประเทศ
ปี 2015 ยังบุกตลาดไม่มากนัก จะไม่เข้าไปตัดราคาเน้นใช้ The 1 Card ในการทำ Promotion
แผนปี 2016 เปิด Office Mate 8 สาขา B2S 6 สาขา ปรับปรุง 11 - 12 สาขา
ผลประกอบการ
Net Sales เติบโต 9% ปัจจัยหลักมาจาก Office Mate ขาย Online มากขึ้นและมีการขาย Online Retail มากขึ้น
Gross Profit เติบโต 12.5% สูงกว่าการเติบโตของรายได้เนื่องจาก 1.สามารถเจรจากับคู่ค้าได้ดีขึ้นจาก Scale ที่ใหญ่ขึ้น 2.การเพิ่ม Own Brand ทำให้ Margin ดีขึ้น 3.การเพิ่มสัดส่วนธุรกิจ Online
EBITDA EBIT และ Net Profit ลดลงเนื่องจากมีการจ้างคนในส่วนของ Online เพิ่มขึ้นและมีการทำการตลาดค่อนข้างสูงจึงทำให้ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง
เนื่องจากลูกค้ากลุ่มใหญ่เป็นลูกค้าธุรกิจ ฤดูกาลของธุรกิจนี้จึงขึ้นกับวันหยุดไตรมาสไหนวันหยุดเยอะรายได้จะลดลง
เชื่อว่าแผนการทำตลาด Online ปัจจุบันอยู่ในทิศทางที่ถูกต้อง ปี 2015 มีสินค้าประมาณ 80,000 skus ปี 2016 ตั้งเป้า 170,000 - 180,000 skus ไตรมาส 3 ปรับ Model เป็น Market Place เดือนมกราคม - กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาอัตราการเติบโตของ Web และ Conversion Rate อยู่ในเกณฑ์ดีมากเป็นครั้งแรกที่ทำได้ตามเป้า Conversion Rate อยู่ที่ 1.2 จาก 0.7 ในปี 2015
การทำ Marketing แบบ O2O (Online to Offline) เช่นการออกส่วนลดในการซื้อสินค้าจาก Store ให้มาซื้อสินค้า Online ค่อนข้างได้ผล เป็นการเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภคที่ใช้งบการตลาดน้อย
เป้ายอดขาย Online ปี 2016 ประมาณ 800 ล้านบาท แต่อยากจะเน้นการตอบสนองจากตลาดมากกว่า ยังไม่สามารถตอบได้ว่าเมื่อปรับเป็น Market Place แล้วการตอบสนองจะมากน้อยแค่ไหน
ตลาดเมืองไทยไม่ค่อยให้ความสำคัญกับการส่งของวันรุ่งขึ้นจึงปรับเปลี่ยนไม่เน้นจุดนี้ จะกลับมาเน้นเรื่องราคา คุณภาพ และ Click and Collect
ปี 2015 ผลประกอบการของ Cenergy ขาดทุนเล็กน้อย ปี 2016 คาดว่าจะไม่ขาดทุน อนาคตเชื่อว่าเป็น Cash Cow
ปี 2015 SSSG ของ OFM เป็นบวก ส่วนของ B2S ติดลบเล็กน้อยเนื่องจากอยู่ระหว่างการ Renovate สาขาใหญ่ๆ ปัจจุบัน B2S มีอัตรากำไรสูงกว่า OFM
จำนวนคนเข้าเพจ Centralonline หลายแสนคนต่อวัน อัตราการซื้อซ้ำค่อนข้างดี
Market Place ที่จะทำไม่เหมือนกับ Lazada ส่วน Logistic ไม่ทำเองน่าจะประหยัดกว่า
สัดส่วน Own Brand ปี 2015 ทำได้ 12% ปี 2016 ตั้งเป้าไว้ 17% ผ่านมา 2 เดือนทำได้มากกว่า 15% เชื่อว่าทั้งปีสามารถได้ตามเป้า Own Brand จะเน้นไปใน Positioning ที่ไม่ตรงกับสินค้าของคู่ค้า
Link สำหรับดูคลิปย้อนหลัง COL OppDay 4Q2015
Link สำหรับเอกสารประกอบ PDF file
บทความที่เกี่ยวข้องกัน
COL OppDay 3Q2015
PTG OppDay 4Q2015
No comments:
Post a Comment