สรุปการประชุม AGM หุ้น COL ประจำปี 2017
ผลงานปี 2016
รายได้รวมเติบโต 8.8%
รายได้จากการขายเติบโต 8.0%
Gross Profit เติบโต 9.9% ในขณะที่ Net Profit ลดลง 2.4% เป็นผลมาจากการขาดทุนในธุรกิจ Online
สัดส่วนรายได้จากการขายมาจากธุรกิจ OFM 60% ธุรกิจ B2S 36% และธุรกิจ Online 4%
สิ้นปี 2016 ธุรกิจ OFM มีสาขารวมทั้งสิ้น 64 สาขา จับกลุ่มตลาด SOHO (Small Office Home Office) มากขึ้น มีการร่วมออกบูธในงานบ้านและสวนแฟร์ ในส่วนของ Own Brand ทั้ง One และ Furradec ยังทำได้ดี
ธุรกิจ B2S ปี 2016 บุกตลาดต่างประเทศ (เวียดนาม) ร้าน B2S ในเวียดนามเป็นการรวม OFM และ B2S เข้าด้วยกัน B2S เวียดนามหมายถึง Business to School เปิด Soft Opening สาขาแรกที่โฮจิมินห์ไปแล้ว เปิดจริงเดือนหน้า
สำหรับสาขาในประเทศไทยมีการปรับ format สาขา เริ่มทำ format school สำหรับสาขาใกล้โรงเรียน
แผนงานปี 2017
มี 4 Strategies
1. พัฒนาตัวเองเป็น 3rd party logistic เมื่อคลังใหม่เสร็จจะมีความสามารถของคลังเหลือให้บริการ Out Source ได้ คลังใหม่ใช้ Robot ทันสมัยที่สุดใน Asian มีพื้นที่มากว่าคลังเก่าประมาณ 30% แต่สามารถรองรับยอดขายได้มากกว่า 3 เท่า (พื้นที่คลังเก่า 15,000 ตร.ม. พื้นที่คลังใหม่ 20,000 ตร.ม.) คิดว่ามี Capacity เหลือพอในการบริการ logistic ให้กับคนอื่นแบบครบวงจรทั้งรับฝากสินค้า จัดส่ง จนกระทั่งเก็บเงินให้กับลูกค้า
2. พัฒนา format franchise ร้านเฟรนไชส์จะสามารถขายของได้เหมือนกับ OFM ทำให้สามารถขยายสาขาได้เร็วขึ้น ถ้า Model นี้สำเร็จในประเทศไทย จะเอา Model นี้ขยายทั่วเอเชีย ปัจจุบันกำลังทำให้ร้าน OFM เล็กลงแต่ยอดขายต่อตารางเมตรไม่ลดลง
3. พัฒนา OFM ให้เป็น B2B Platform ต่อไป OFM จะขายทุกอย่างที่ธุรกิจต้องการ อาจรวมไปถึงพวกไขควง เพราะปัจจุบันมีลูกค้าโรงงานเป็นหมื่นแห่ง
4. แปลงตัวเองจาก Office Supply เป็น The Total Business Solution Provider ถ้าองค์กรต้องการอะไรเรามีให้หมดทุกอย่าง หากบริษัทอยากทำแฟ้มที่เป็นโลโก้ของตัวเอง OFM จะทำให้ได้
ธุรกิจ Online
เนื่องจากอุตสาหกรรม Online เปลี่ยนแปลงเร็วและแข่งขันรุนแรง บริษัทไม่อยากแข่งขาดทุน จึงคิดว่าจะตัดธุรกิจ Online (CGO) ให้กับทาง Central Group
สเกลของ COL เล็กเกินไปที่จะแข่งกับคู่แข่ง Online ระดับโลก การกลับมา Focus ในธุรกิจที่ชำนาญน่าจะดีกว่า
หากดูผลการดำเนินงานย้อนหลังในปี 2015 ถ้าไม่รวมขาดทุนจากธุรกิจ Online กำไรจะเพิ่มจาก 394 ล้านบาท เป็น 579 ล้านบาท (47%) ในขณะที่ปี 2016 หากไม่มีขาดทุนใน Online กำไรจะเพิ่มจาก 384 ล้านบาท เป็น 714 ล้านบาท (86%)
ธุรกิจ Online จากนี้ไปจะ Focus เฉพาะตลาดองค์กร ตลาด Online กับ B2B ยังไม่ค่อยมีคู่แข่ง จะทำให้บริษัทเป็น Destination ของภาคองค์กร
แผนงานคือจะเลิกทำธุรกิจ Online ทั้งหมดในเครือ Central เหลือเพียงธุรกิจ Online ที่เกี่ยวข้องกับ OFM และ B2S
คลังสินค้าใหม่น่าจะเปิดใช้งานได้ประมาณกลางปีหน้า สำหรับเฟรนไชส์คาดว่าจะเปิดช่วงใกล้ๆ กับคลังสินค้า ช่วงแรกของการเปิดตัวตั้งเป้า 100 เฟรนไชส์ โดยรูปแบบเฟรนไชส์จะเป็น OFM ก่อน
Market Place ที่เคยอยู่ในแผนจะไม่ทำแล้ว
สภาวะตลาดเครื่องเขียนเวียดนามเหมือนของไทยเมื่อ 25 ปีที่แล้ว แต่เวียดนามมีการเติบโตสูงและยังโตได้อีกอย่างน้อย 10 ปีต่อเนื่อง
เวียดนามค่อนข้างชอบสินค้าไทยแต่ไม่ค่อยชอบสินค้าจีน อาจมีผลกับ Own Brand บางตัวที่นำเข้าจากจีน
ยังไม่มี Modern Trade Office Supply ในเวียดนาม เชื่อว่าศักยภาพของ OFM น่าจะแข็งแรงที่สุด
ปีนี้จะเปิด B2S เพิ่มอีก 1 สาขา ที่โฮจิมินห์
จุดคุ้มทุน B2S เวียดนามน่าจะประมาณ 3 ปี Supplier ในเวียดนามส่วนใหญ่เป็น Supplier ที่อยู่ในไทยอยู่แล้ว
Meb ทำกำไรได้ดี มีกำไร 8 - 9% จะเข้าตลาดหรือไม่ขอดูอีกที แต่ยังมีศักยภาพเติบโตได้อีกมาก
ธุรกิจ Online จะตัดขายในระดับไหน CGO อย่างเดียวหรือ CGO + Synergy ยังอยู่ระหว่างการพิจารณา
เป้าหมายรายได้ Online (ที่เหลือ) ในปี 2021 อยู่ที่มากกว่า 5,000 ล้านบาท ขายสินค้ามากกว่า 150,000 SKUs ปัจจุบันรายได้ Online ของ OFM อยู่ที่ประมาณ 1,000 ล้านบาท
ตลาด B2B เฉพาะในประเทศใหญ่กว่า B2C 2 - 3 เท่า การแข่งขันต่ำ และเป็นตลาดที่ OFM ชำนาญ
ลูกค้าของ OFM เป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ประมาณ 80% ของบริษัทจดทะเบียน โฟกัสที่จะเข้าไปใหม่คือ ธุรกิจ SME ซึ่งมีเป็นล้านราย
ปีนี้คาดว่าสามารถเติบโตทาง Online ประมาณ 50% ในขณะที่ค่าใช้จ่ายเพิ่มมีน้อยมาก เป็นการเติบโตตามตลาด Organic Growth
แผนการขายธุรกิจ Online (CGO) เร็วสุดประมาณไตรมาส 2 ช้าสุดไม่เกินไตรมาส 3
หลังคลังสินค้าใหม่เสร็จจะย้ายจากคลังเก่าไปใช้คลังใหม่ทั้งหมด ส่วนคลังเก่าจะ Renovate หรือทำอย่างไรค่อยพิจารณาอีกที
ธุรกิจส่งของให้ เริ่มทำแล้วร่วมกับ Kerry ส่วน B2B Platform ใหม่น่าจะเริ่มได้กลางปีหน้า
ยอดขาย Meb ปี 2559 อยู่ที่ 267 ล้านบาท กำไร 25 ล้านบาท
2-3 ปีที่ผ่านมา สามารถเปลี่ยน B2S จากธุรกิจขาลงมาเป็น Cash Cow ต่อไปพยายามเปลี่ยนให้เป็น Star อัตราการทำกำไรของ B2S (เกือบ 10%) ดีกว่า OFM (ประมาณ 6%) แต่การเติบโตยังไม่ดี
B2S สาขาเปิดใหม่ใช้พื้นที่เล็กลง พยายามทำให้ยอดขายต่อตารางเมตรเพิ่มขึ้น
ระยะเวลาคืนทุน East Ville ประมาณ 6 ปี
Trend Online ยังคงเป็น Omni Channel
ธุรกิจ Logistic ที่จะทำยังไม่มีคู่แข่งตรงๆ ที่ทำเหมือนกัน OFM จะทำหน้าที่เป็น Hub ของ Logistic
Link สำหรับเอกสารประกอบการประชุม COL AGM 2017
บทความที่เกี่ยวข้องกัน
COL OppDay 3Q2016
COL AGM Y2016
THCOM AGM Y 2017
ขอบคุณมากค่ะ ที่เขียนให้อ่าน ขอบคุณจริง ๆ
ReplyDelete^_^
Delete