ปี 2015 รายได้เติบโต 9.3% YoY กำไรเติบโต 34.1% YoY
64% ของรายได้มาจากร้านสะดวกซื้อและบริษัทย่อย อีก 36% มาจาก MAKRO
จำนวนสาขา ณ สิ้นปี 2015 มีทั้งสิ้น 8,832 สาขา เพิ่มขึ้น 705 สาขาจากปี 2014 สาขาทั้งหมดอยู่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล 44% ต่างจังหวัด 56% เป็นรูปแบบที่บริษัททำเอง 44% โดยมีสาขาในปั๊ม ปตท. 14%
ยอดขายเฉลี่ยอยู่ที่ 77,496 บาทต่อร้านต่อวัน SSSG +0.9% ยอดซื้อต่อราย 63 บาท จำนวนลูกค้า 1,261 คนต่อร้านต่อวัน เป็นจำนวนลูกค้าที่เข้าร้าน 7-11 สูงที่สุดในโลก
ระยะเวลาสินค้าคงคลัง 28 วัน ระยะเวลาชำระหนี้ 72.2 วัน วงจรเงินสด -44.2 วัน
Net Debt to EBITDA 5.1 เท่า Net Debt to Equity 4.0 เท่า ดีกว่าเงื่อนไขและข้อกำหนดของผู้ถือหุ้นกู้
ปี 2016 ตั้งเป้าเปิดสาขา 700 สาขา ภายในปี 2018 จะต้องมีสาขา 10,000 สาขา
เงินลงทุน 9,500 - 10,000 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินสำหรับขยายสาขา 3,000 - 3,200 ล้านบาท สำหรับปรับปรุงสาขา 1,300 - 1,400 ล้านบาท ลงทุนในบริษัทย่อยและศูนย์กระจายสินค้า 4,300 - 4,400 ล้านบาท ลงทุนในสินทรัพย์และระบบ IT 900 - 1,000 ล้านบาท
โครงการใหม่ปี 2016 ประกอบด้วย 1. E-Commerce และ E-Payment 2. มุมกาแฟ All Cafe 3. สินค้าสุขภาพและความงาม
หากเปรียบเทียบสัดส่วนประชากรต่อร้านสะดวกซื้อของประเทศพัฒนาแล้ว เช่น อเมริกา ญี่ปุ่น ไต้หวัน จะอยู่ที่ประชากรประมาณ 2,000 คนต่อร้านสะดวกซื้อ 1 ร้าน ในขณะที่ประเทศไทยสัดส่วนอยู่ที่ประมาณ 4,000 คนต่อ 1 ร้าน ถ้ามองในสัดส่วนนี้ร้านสะดวกซื้อยังสามารถเติบโตได้อีก
บทความที่เกี่ยวข้องกัน
MAKRO AGM Y2016
COL AGM Y2016
No comments:
Post a Comment