• Home
  • OppDay
  • AGM
  • ตะลอนหุ้น
  • Food&Trip
  • About

September 26, 2016

เซียนรุ่นใหญ่ ไขความลับลงทุน

       สรุปจากงานสัมมนา 8 เซียนหุ้นหมื่นล้านสัญจรหาดใหญ่ "ฟัง วิเคราะห์การลงทุน เพื่อให้คุณคิดได้อย่างเซียน" วันเสาร์ที่ 24 กันยายน 2559  ช่วง "เซียนรุ่นใหญ่ ไขความลับลงทุน"  โดยมี ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร  คุณอนุรักษ์ บุญแสวง (โจ ลูกอีสาน)  และคุณโสรัตน์ วณิชวรากิจ (เคน) ร่วมสัมมนา
 

       ดร.นิเวศน์  -  ชอบมองภาพใหญ่หากมองจากกราฟ SET Index ระยะยาวคิดว่าตลาดหุ้นช่วงนี้น่าจะอยู่ในช่วงยอดดอยของตลาดครั้งที่ 2  ครั้งแรกตอนปี 2536 - 2537 ที่ดัชนี 1,700 กว่าจุด  เป็นช่วงที่น่าหวาดเสียวเริ่มรู้สึกกลัว

       ราคาหุ้นปัจจุบันถือว่าไม่ถูก PE สูงกว่าปกติ  ปกติ PE ตลาดจะอยู่ที่ประมาณ 10 ต้นๆ  ประกอบกับเศรษฐกิจไทยที่ผ่านมา 2 - 3 ปีชะลอตัวอย่างรวดเร็วจาก 5% เหลือเพียง 2 - 3%  คนไทยแก่ตัวลงเรื่อยๆ โอกาสที่จะโตเร็วเหมือนในอดีตยากขึ้น
 

       2 ปีที่ผ่านมา ดร.นิเวศน์ ตัดสินใจลดพอร์ตลงจากที่เคยถือหุ้น 99% ปัจจุบันเหลือประมาณ 50%  เป็นหุ้นเวียดนามประมาณ 9% (หุ้นเวียดนามเติบโตจาก 5 - 6% เป็น 9%)  เงินสดมากกว่า 40%  สถานการณ์ปัจจุบันเป็นภาวะที่มีเงินแต่ไม่รู้จะซื้อหุ้นตัวไหน
 

       ด้านตลาดหุ้นเวียดนามเห็นได้ชัดว่าเวียดนามกำลังโตไวมาก  ตัวเลขเศรษฐกิจที่ประกาศออกมาน่าทึ่งน่าประทับใจ  เวียดนามมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาอีกไม่นานการส่งออกของเวียดนามจะแซงเมืองไทย  ในขณะที่ไทยกับเวียดนามถือว่าเป็นคู่แข่งกันโดยตรง
 

       การลงทุนในไทยโอกาสที่จะเติบโตเร็วๆ ในอนาคตอาจจะไม่ได้แล้ว  กำลังทบทวนว่าอย่าไปลงทุนในหุ้นมากเกินไป
 

       คุณเคน  -  กลยุทธ์การลงทุนปีนี้ลดพอร์ตตั้งแต่ต้นปี  ขายมาเรื่อยๆ ขึ้นก็ขาย ลงก็ขาย  มองว่า Fundamental แพง  แต่เนื่องจากสภาพคล่องมีเยอะมากหุ้นจึงขึ้นต่อ  สภาพตลาดปัจจุบันเริ่มเพี้ยนจากตลาดลงทุนเป็นตลาดเก็งกำไรใกล้จบรอบ
 

       ปัจจุบันมีพอร์ตหุ้น 60%  เงินสด 40%  จากที่ไม่เคยถือเงินสด  ตอนนี้โยน Wealth ไปลงที่ดินคิดเป็นสัดส่วน 70 : 15 : 15 คือมีที่ดิน 70%  หุ้น 15%  กิจการที่ทำ 15%
 

       คุณโจ  -  ตอนนี้ลดพอร์ตลงเหมือนกัน  ช่วงกลางปีถือเงินสด 40% จากที่ไม่เคยถือเลย  กลัวว่าถ้ามีอะไรกระทบกับตลาดมันอาจจะตกอย่างรวดเร็ว  ผลตอบแทนถึงปัจจุบันแพ้ตลาดอยู่นิดหน่อย  ช่วงหุ้นตกที่ผ่านมากลับเข้าไปซื้อส่วนหนึ่งเพราะเห็นว่าหุ้นบางตัวเริ่มมีความปลอดภัยสูง  ปัจจุบันเหลือเงินสด 20%  และลงทุนในเวียดนาม 10%
 

       ตอนนี้ถือหุ้นไทย 50 ตัว  หุ้นเวียดนาม 40 ตัว  ตั้งใจว่าจะไม่ให้มีหุ้นเกิน 100 ตัว
 

       ดร.นิเวศน์  -  จะกลับเข้าซื้อหุ้นไทยก็ต่อเมื่อราคาลงมามาก  เน้นกิจการที่แข็งแกร่งไม่ว่าจะเกิดอะไรก็สามารถซื้อได้
 

       หลักการเลือกหุ้นของ ดร.นิเวศน์ ใช้หลัก  3 คำ  3 ปี  และ PE3
       - 3 คำ คือ  ให้เลือกบริษัทที่  รายได้เพิ่ม  กำไรเพิ่ม  ปันผลเพิ่ม
       - 3 ปี คือ  เมื่อมองไป 3 ปีข้างหน้าบริษัทนั้นจะต้องมี  รายได้เพิ่ม  กำไรเพิ่ม  ปันผลเพิ่ม

       - PE3 คือ  อีก 3 ปีข้างหน้า  PE ของบริษัทต้องไม่เกิน 20 เท่า
 

       ถ้าได้ตามเกณฑ์นี้ก็ซื้อได้แต่ต้องมั่นใจมากและมีเหตุผลยืนยันชัดเจน  ในการลงทุนต้องมั่นใจว่าไม่ขาดทุน  ถ้ามีโอกาสขาดทุนก็ไม่ควรลง
 

       สไตล์ของ ดร.นิเวศน์ มีหุ้นไม่กี่ตัวแล้วถือยาวๆ  เน้นความปลอดภัยสูง  หุ้นตัวไหนที่ไม่มั่นใจก็จะเลี่ยงๆ ไป
 

       คุณเคน  -  เวลาอยากซื้อหุ้นให้พยายามถามตัวเองว่า  เหตุใดจึงจะซื้อหุ้นตัวนั้น  เพราะอะไร  ตั้งคำถามไปเรื่อยๆ จนเจอข้อที่ตอบไม่ได้แล้วหาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อให้ได้คำตอบ  ค่อยๆ ทำ  ค่อยๆ เริ่มต้น เราจะเริ่มหาหุ้นเก่งขึ้น
 

       ที่สำคัญต้องมีจุดยืนในเชิงกลยุทธ์  ถ้าตลาดขึ้นก็ขึ้น  ถ้าตลาดลงก็ดีใจ  อะไรก็ตามที่ถือแล้วไม่ค่อยสบายใจก็เอาออกมาบางส่วน  หากพลาดต้องพลาดด้วยตัวเองแล้วจะจำ  จุดนี้เป็นจุดเริ่มต้นของความสำเร็จ
 

       ไม่ว่าตลาดจะเป็นอย่างไรก็ต้องลงทุนอาจลงสักเล็กน้อยก็ได้  เพราะเราจะได้เรียนรู้
 

       คุณโจ  -  เหตุที่กระจายหุ้นมากเพราะเมื่อผิดพลาดจะไม่ตาย   กลยุทธ์ที่ใช้เป็นเต่าที่เดินช้าแต่เต่าไม่เคยหยุดเดิน  ซื้อหุ้นคุณภาพพอใช้ราคาไม่แพงเลยทำให้หาหุ้นได้เยอะ  ระยะเวลาการถือหุ้นนานสุด 3 ปี  เร็วสุด 6 - 7 เดือน  เฉลี่ยปีกว่าๆ
 

       หลักการ VI 
       - ให้มองว่าการซื้อหุ้นคือการซื้อธุรกิจ  ไม่ใช่เก็งกำไรราคา
       - หามูลค่าของบริษัทนั้นๆ ให้ได้
       - ซื้อหุ้นที่มีส่วนเผื่อความปลอดภัย (Margin of Safety) ยิ่งเยอะยิ่งดี
       - แยกตัวเองออกจากนายตลาด (Mr. Market)
 

       ดร.นิเวศน์  -  มองเมกะเทรนด์เป็นเมกะเทรนด์ของโลก  เป็นความสัมพันธ์ของ 3 - 4 เรื่อง
       - เรื่องคนแก่ตัว  ต้องการตายช้าลง  เพื่อการอยู่รอดของมนุษย์
       - เงินท่วมโลก  เพราะรายได้ต่อหัวดีขึ้น
       - เทคโนโลยีเป็น Mass ที่คนทั่วไปใช้ได้จริง  ราคาถูก
 

       เช่น การท่องเที่ยวเกิดจากความต้องการอยู่รอดของมนุษย์  อยู่ในยีนของมนุษย์เพื่อการดำรงเผ่าพันธุ์  ต่อให้เศรษฐกิจไม่ดีคนก็เดินทางท่องเที่ยว  แต่เมื่อมีเงินเพิ่มขึ้นรายได้เพิ่มขึ้นประกอบกับเทคโนโลยีการเดินทางถูกลงเรื่อยๆ ก็ยิ่งส่งเสริมให้คนท่องเที่ยวมากขึ้นไปอีก
 

       เทรนด์ด้านโรงพยาบาลหรืออาหารก็เกิดจากเหตุต้องการอยู่รอด  มีเงินมากขึ้น  และการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ  มีการรักษาใหม่ๆ  มีอาหารการกินที่ช่วยให้ชีวิตอยู่ได้นานขึ้น  คนเราต้องการของที่ดีขึ้น  ของที่ใหม่ขึ้น  เพื่อการอยู่รอดต่อไป
 

       คุณเคน  -  เงินที่จะนำมาลงทุนต้องเป็นเงินเย็น  ปัจจัยที่สำคัญแห่งความสำเร็จอยู่ที่การใช้เวลาไปกับสิ่งที่เป็นสาระมากกว่าสิ่งที่ไม่เป็นสาระ  เช่น การนั่งมองราคาหุ้นทุกวันเป็นสิ่งที่ไม่เป็นสาระ  เอาเวลานั้นมาศึกษาข้อมูลบริษัทดีกว่า
 

       ให้ติดตามหุ้นแบบเจ้าของกิจการอย่าตามแบบลูกจ้าง  ให้ติดตามในภาพรวมของกิจการอย่าเอาประเด็นเล็กๆ น้อยๆ ที่ไม่ส่งผลต่อภาพใหญ่มาพิจารณาเป็นหลัก
 

       ให้รู้สึกพอ  ถ้าได้กำไรที่พอใจก็ขายแล้วพอ  อย่าเอาเงินมาเป็นตัวตั้ง
 

       คุณโจ  -  ปิดท้ายด้วยสมการการทบต้น  ที่ไอน์สไตน์บอกว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์อันดับแปดของโลก  โดยเน้นในเรื่องของระยะเวลาเนื่องจากผู้เข้าฟังจำนวนหนึ่งเป็นนักศึกษา  ยิ่งมีเวลาในการลงทุนมากผลตอบแทนก็จะเพิ่มมหาศาล  แต่ให้ระวังเรื่องการใช้เงิน  อย่าใช้เงินที่ก่อให้เกิดการทบต้นในด้านลบเพราะจะก่อให้เกิดผลเสียหายมากเช่นกัน

บทความที่เกี่ยวข้องกัน
       ลงทุนหุ้นต่างประเทศ
       ROBINS OppDay 2Q2016

No comments:

Post a Comment