สรุปจากงานสัมมนา 8 เซียนหุ้นหมื่นล้านสัญจรหาดใหญ่ "ฟัง วิเคราะห์การลงทุน เพื่อให้คุณคิดได้อย่างเซียน" วันเสาร์ที่ 24 กันยายน 2559 ช่วง "เซียนรุ่นใหญ่ ไขความลับลงทุน" โดยมี ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร คุณอนุรักษ์ บุญแสวง (โจ ลูกอีสาน) และคุณโสรัตน์ วณิชวรากิจ (เคน) ร่วมสัมมนา
ดร.นิเวศน์ - ชอบมองภาพใหญ่หากมองจากกราฟ SET Index ระยะยาวคิดว่าตลาดหุ้นช่วงนี้น่าจะอยู่ในช่วงยอดดอยของตลาดครั้งที่ 2 ครั้งแรกตอนปี 2536 - 2537 ที่ดัชนี 1,700 กว่าจุด เป็นช่วงที่น่าหวาดเสียวเริ่มรู้สึกกลัว
ราคาหุ้นปัจจุบันถือว่าไม่ถูก PE สูงกว่าปกติ ปกติ PE ตลาดจะอยู่ที่ประมาณ 10 ต้นๆ ประกอบกับเศรษฐกิจไทยที่ผ่านมา 2 - 3 ปีชะลอตัวอย่างรวดเร็วจาก 5% เหลือเพียง 2 - 3% คนไทยแก่ตัวลงเรื่อยๆ โอกาสที่จะโตเร็วเหมือนในอดีตยากขึ้น
2 ปีที่ผ่านมา ดร.นิเวศน์ ตัดสินใจลดพอร์ตลงจากที่เคยถือหุ้น 99% ปัจจุบันเหลือประมาณ 50% เป็นหุ้นเวียดนามประมาณ 9% (หุ้นเวียดนามเติบโตจาก 5 - 6% เป็น 9%) เงินสดมากกว่า 40% สถานการณ์ปัจจุบันเป็นภาวะที่มีเงินแต่ไม่รู้จะซื้อหุ้นตัวไหน
ด้านตลาดหุ้นเวียดนามเห็นได้ชัดว่าเวียดนามกำลังโตไวมาก ตัวเลขเศรษฐกิจที่ประกาศออกมาน่าทึ่งน่าประทับใจ เวียดนามมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาอีกไม่นานการส่งออกของเวียดนามจะแซงเมืองไทย ในขณะที่ไทยกับเวียดนามถือว่าเป็นคู่แข่งกันโดยตรง
การลงทุนในไทยโอกาสที่จะเติบโตเร็วๆ ในอนาคตอาจจะไม่ได้แล้ว กำลังทบทวนว่าอย่าไปลงทุนในหุ้นมากเกินไป
คุณเคน - กลยุทธ์การลงทุนปีนี้ลดพอร์ตตั้งแต่ต้นปี ขายมาเรื่อยๆ ขึ้นก็ขาย ลงก็ขาย มองว่า Fundamental แพง แต่เนื่องจากสภาพคล่องมีเยอะมากหุ้นจึงขึ้นต่อ สภาพตลาดปัจจุบันเริ่มเพี้ยนจากตลาดลงทุนเป็นตลาดเก็งกำไรใกล้จบรอบ
ปัจจุบันมีพอร์ตหุ้น 60% เงินสด 40% จากที่ไม่เคยถือเงินสด ตอนนี้โยน Wealth ไปลงที่ดินคิดเป็นสัดส่วน 70 : 15 : 15 คือมีที่ดิน 70% หุ้น 15% กิจการที่ทำ 15%
คุณโจ - ตอนนี้ลดพอร์ตลงเหมือนกัน ช่วงกลางปีถือเงินสด 40% จากที่ไม่เคยถือเลย กลัวว่าถ้ามีอะไรกระทบกับตลาดมันอาจจะตกอย่างรวดเร็ว ผลตอบแทนถึงปัจจุบันแพ้ตลาดอยู่นิดหน่อย ช่วงหุ้นตกที่ผ่านมากลับเข้าไปซื้อส่วนหนึ่งเพราะเห็นว่าหุ้นบางตัวเริ่มมีความปลอดภัยสูง ปัจจุบันเหลือเงินสด 20% และลงทุนในเวียดนาม 10%
ตอนนี้ถือหุ้นไทย 50 ตัว หุ้นเวียดนาม 40 ตัว ตั้งใจว่าจะไม่ให้มีหุ้นเกิน 100 ตัว
ดร.นิเวศน์ - จะกลับเข้าซื้อหุ้นไทยก็ต่อเมื่อราคาลงมามาก เน้นกิจการที่แข็งแกร่งไม่ว่าจะเกิดอะไรก็สามารถซื้อได้
หลักการเลือกหุ้นของ ดร.นิเวศน์ ใช้หลัก 3 คำ 3 ปี และ PE3
- 3 คำ คือ ให้เลือกบริษัทที่ รายได้เพิ่ม กำไรเพิ่ม ปันผลเพิ่ม
- 3 ปี คือ เมื่อมองไป 3 ปีข้างหน้าบริษัทนั้นจะต้องมี รายได้เพิ่ม กำไรเพิ่ม ปันผลเพิ่ม
- PE3 คือ อีก 3 ปีข้างหน้า PE ของบริษัทต้องไม่เกิน 20 เท่า
ถ้าได้ตามเกณฑ์นี้ก็ซื้อได้แต่ต้องมั่นใจมากและมีเหตุผลยืนยันชัดเจน ในการลงทุนต้องมั่นใจว่าไม่ขาดทุน ถ้ามีโอกาสขาดทุนก็ไม่ควรลง
สไตล์ของ ดร.นิเวศน์ มีหุ้นไม่กี่ตัวแล้วถือยาวๆ เน้นความปลอดภัยสูง หุ้นตัวไหนที่ไม่มั่นใจก็จะเลี่ยงๆ ไป
คุณเคน - เวลาอยากซื้อหุ้นให้พยายามถามตัวเองว่า เหตุใดจึงจะซื้อหุ้นตัวนั้น เพราะอะไร ตั้งคำถามไปเรื่อยๆ จนเจอข้อที่ตอบไม่ได้แล้วหาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อให้ได้คำตอบ ค่อยๆ ทำ ค่อยๆ เริ่มต้น เราจะเริ่มหาหุ้นเก่งขึ้น
ที่สำคัญต้องมีจุดยืนในเชิงกลยุทธ์ ถ้าตลาดขึ้นก็ขึ้น ถ้าตลาดลงก็ดีใจ อะไรก็ตามที่ถือแล้วไม่ค่อยสบายใจก็เอาออกมาบางส่วน หากพลาดต้องพลาดด้วยตัวเองแล้วจะจำ จุดนี้เป็นจุดเริ่มต้นของความสำเร็จ
ไม่ว่าตลาดจะเป็นอย่างไรก็ต้องลงทุนอาจลงสักเล็กน้อยก็ได้ เพราะเราจะได้เรียนรู้
คุณโจ - เหตุที่กระจายหุ้นมากเพราะเมื่อผิดพลาดจะไม่ตาย กลยุทธ์ที่ใช้เป็นเต่าที่เดินช้าแต่เต่าไม่เคยหยุดเดิน ซื้อหุ้นคุณภาพพอใช้ราคาไม่แพงเลยทำให้หาหุ้นได้เยอะ ระยะเวลาการถือหุ้นนานสุด 3 ปี เร็วสุด 6 - 7 เดือน เฉลี่ยปีกว่าๆ
หลักการ VI
- ให้มองว่าการซื้อหุ้นคือการซื้อธุรกิจ ไม่ใช่เก็งกำไรราคา
- หามูลค่าของบริษัทนั้นๆ ให้ได้
- ซื้อหุ้นที่มีส่วนเผื่อความปลอดภัย (Margin of Safety) ยิ่งเยอะยิ่งดี
- แยกตัวเองออกจากนายตลาด (Mr. Market)
ดร.นิเวศน์ - มองเมกะเทรนด์เป็นเมกะเทรนด์ของโลก เป็นความสัมพันธ์ของ 3 - 4 เรื่อง
- เรื่องคนแก่ตัว ต้องการตายช้าลง เพื่อการอยู่รอดของมนุษย์
- เงินท่วมโลก เพราะรายได้ต่อหัวดีขึ้น
- เทคโนโลยีเป็น Mass ที่คนทั่วไปใช้ได้จริง ราคาถูก
เช่น การท่องเที่ยวเกิดจากความต้องการอยู่รอดของมนุษย์ อยู่ในยีนของมนุษย์เพื่อการดำรงเผ่าพันธุ์ ต่อให้เศรษฐกิจไม่ดีคนก็เดินทางท่องเที่ยว แต่เมื่อมีเงินเพิ่มขึ้นรายได้เพิ่มขึ้นประกอบกับเทคโนโลยีการเดินทางถูกลงเรื่อยๆ ก็ยิ่งส่งเสริมให้คนท่องเที่ยวมากขึ้นไปอีก
เทรนด์ด้านโรงพยาบาลหรืออาหารก็เกิดจากเหตุต้องการอยู่รอด มีเงินมากขึ้น และการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ มีการรักษาใหม่ๆ มีอาหารการกินที่ช่วยให้ชีวิตอยู่ได้นานขึ้น คนเราต้องการของที่ดีขึ้น ของที่ใหม่ขึ้น เพื่อการอยู่รอดต่อไป
คุณเคน - เงินที่จะนำมาลงทุนต้องเป็นเงินเย็น ปัจจัยที่สำคัญแห่งความสำเร็จอยู่ที่การใช้เวลาไปกับสิ่งที่เป็นสาระมากกว่าสิ่งที่ไม่เป็นสาระ เช่น การนั่งมองราคาหุ้นทุกวันเป็นสิ่งที่ไม่เป็นสาระ เอาเวลานั้นมาศึกษาข้อมูลบริษัทดีกว่า
ให้ติดตามหุ้นแบบเจ้าของกิจการอย่าตามแบบลูกจ้าง ให้ติดตามในภาพรวมของกิจการอย่าเอาประเด็นเล็กๆ น้อยๆ ที่ไม่ส่งผลต่อภาพใหญ่มาพิจารณาเป็นหลัก
ให้รู้สึกพอ ถ้าได้กำไรที่พอใจก็ขายแล้วพอ อย่าเอาเงินมาเป็นตัวตั้ง
คุณโจ - ปิดท้ายด้วยสมการการทบต้น ที่ไอน์สไตน์บอกว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์อันดับแปดของโลก โดยเน้นในเรื่องของระยะเวลาเนื่องจากผู้เข้าฟังจำนวนหนึ่งเป็นนักศึกษา ยิ่งมีเวลาในการลงทุนมากผลตอบแทนก็จะเพิ่มมหาศาล แต่ให้ระวังเรื่องการใช้เงิน อย่าใช้เงินที่ก่อให้เกิดการทบต้นในด้านลบเพราะจะก่อให้เกิดผลเสียหายมากเช่นกัน
บทความที่เกี่ยวข้องกัน
ลงทุนหุ้นต่างประเทศ
ROBINS OppDay 2Q2016
No comments:
Post a Comment