งบการเงินราย 9 เดือน
EBITDA +0.7 %YoY
Net Profit -41.2 %YoY
สาเหตุที่ Net Profit ลดลงมากเนื่องจากราคาน้ำมันที่ลดลง ประกอบกับมีค่าใช้จ่ายด้านบุคคลากรเพื่อรองรับโครงการปาล์มคอมเพล็กซ์ และค่าใช้จ่ายตั้งสำรองสำหรับสมาชิกบัตร PT Max Card ที่จะมาใช้แต้มสะสมในอนาคต
Gross Profit Margin เพิ่มขึ้นจาก 5.5% เป็น 6.8% ในขณะที่ EBITDA Margin เพิ่มขึ้นจาก 2.4% เป็น 2.8% และ Net Profit Margin เพิ่มขึ้นจาก 0.9% เป็น 1.0% D/E อยู่ที่ 0.90 เท่า
ปัจจุบันยอดขายน้ำมันเป็นอันดับ 5 ของประเทศ ตั้งเป้าปี 2016 ที่อันดับ 4 ในส่วนของสถานีบริการจะมีให้ได้ 1,600 สถานี (น้ำมัน+แก๊ส) รวมถึง 25 สถานีบริการในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล และจะให้ได้ยอดขายอันดับ 2 ภายในปี 2017
เป้ายอดขายในเชิงปริมาณ ปี 2016 จะเติบโต 35 - 40% และตั้งเป้าเพื่อเข้า SET50 ภายในปีหน้า อย่างช้าที่สุดไม่เกินปี 2018
ไตรมาส 4 ปริมาณการจำหน่ายน้ำมันสูงสุดกว่าทุกไตรมาส ค่าการตลาดไตรมาส 4 ดีกว่า ไตรมาส 3
สิ้นสุดไตรมาส 3 มีสถานีบริการ 1,095 สาขา ถึงสิ้นเดือนตุลาคมมี 1,115 สาขา LPG 9 สาขา ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับผู้ประกอบการค้าปลีกให้เข้ามาให้บริการในสถานี
ปริมาณการจำหน่ายน้ำมันเพิ่มขึ้น 25% YoY โดยช่องทาง WholeSale +1.46% และช่องทาง Retail +22.74% ทั้งนี้หากแยกสัดส่วนการจำหน่ายจะมาจาก CoCo 74% DoDo 13% และ WholeSale 13%
รถขนส่งน้ำมันเพิ่มขึ้นจาก 336 คัน เป็น 352 คัน เป็นรถสิบล้อ 30% รถเทรลเลอร์ 70%
เป้าสิ้นปีนี้จะมีสมาชิก PT MaxCard 3.7 ล้านราย ปัจจุบันมีรายได้จากสมาชิกบัตร 66.14%
โครงการปาล์มคอมเพล็กซ์ อยู่ระหว่างการตอกเสาเข็ม ต้นปี 2017 เริ่มทำการหีบปาล์มได้ เสร็จสมบูรณ์ปลายปี 2017 โครงการนี้มีกำลังการผลิต BioDiesel 450 KL / วัน และกำลังการผลิต Olein 200 KL / วัน
กำลังอยู่ระหว่างการเตรียมโครงการผลิตเอธานอลเป็นโครงการใหม่ของบริษัท
ไตรมาส 2 ปีหน้าจะเริ่มจำหน่ายน้ำมันเครื่องแบรนด์ PT
ปัจจุบันปั๊ม PT เป็นสัญญาเช่าระยะยาว 70 - 75 %
แม้ตัวเลขในไตรมาส 3 จะลดลง แต่ยังคงเป้าสำหรับสิ้นปีเท่าเดิม
งบลงทุนปีหน้า ตั้งไว้ไม่น้อยกว่า 2,000 ล้านบาท เตรียมออกบอนด์ 4,000 ล้านบาท
บทความที่เกี่ยวข้องกัน
PTG OppDay 2Q2015
UAC OppDay 3Q2015
No comments:
Post a Comment