ผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ต่ำกว่าเป้าที่บริษัทวางไว้ ทั้งนี้ตั้งแต่ปลายไตรมาส 2 ความต้องการบ้านราคาแพงลดลง ส่วนบ้านระดับกลางถึงล่าง ราคา 2 - 3 ล้านบาท ยังมีความต้องการอยู่แต่ลูกค้ายื่นกู้ธนาคารไม่ผ่านจำนวนมาก
ไตรมาส 4 คิดว่าน่าจะทำได้ดี มีคอนโดสร้างเสร็จ 1 แท่ง เริ่มโอนแล้ว มูลค่าประมาณ 2,000 ล้านบาท ทั้งนี้จะพยายามรักษายอดโอนปีนี้ให้ได้ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา
ปี 2016 จะลด D/E ให้เหลือ 1.1 เท่า จากปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 1.2 - 1.3 เท่า โดยลดการซื้อที่ดิน ที่ดินที่มีอยู่ในปัจจุบันสามารถลงทุนโครงการบ้านได้มากกว่า 4 ปี และลงทุนคอนโดได้มากกว่า 3 ปี ตั้งเป้า D/E เหลือ 1 เท่า ภายใน 2 ปี
งบลงทุนในปี 2016 สำหรับซื้อที่ดินประมาณ 5,000 ล้านบาท งบก่อสร้างประมาณ 10,000 ล้านบาท
หนี้สินส่วนใหญ่เป็นหุ้นกู้ อัตราดอกเบี้ยประมาณ 3.6%
Gross Profit Margin อยู่ที่ 31% ลดลงจากปีก่อนที่ทำได้ 32.5%
ปี 2015 ตั้งเป้ายอด Presale ที่ 23,600 ล้านบาท ณ ปัจจุบัน (26 พ.ย.) ทำได้ 18,000 ล้านบาท คิดเป็น 76% คิดว่าสิ้นปีคงไม่ถึงเป้าหมายที่วางไว้
เป้ารายได้ปี 2015 วางไว้ที่ 22,000 ล้านบาท 9 เดือนทำได้ 12,000 ล้านบาท
ปี 2015 เปิดโครงการใหม่ 21 โครงการ มูลค่า 25,770 ล้านบาท แบ่งเป็น
ระดับราคาสูง 42% ระดับกลาง 40% ระดับราคาต่ำ 18%
บ้านเดี่ยว 35% ทาวน์เฮ้าส์ 14% คอนโด 51%
เขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล 87% ต่างจังหวัด 13%
ปี 2016 เปิดโครงการใหม่ 26 - 27 โครงการ มูลค่ามากกว่าปี 2015
QH ถือหุ้น HMPRO 20% LHBANK 21% และกองทุนอสังหาริมทรัพย์อีก 2 กอง 26% และ 31% หากคิดมูลค่าตลาดส่วนที่ถือหุ้นอยู่จะมีประมาณ 26,500 ล้านบาท NAV บริษัท 3.64 บาท ทั้งนี้มีรายได้ที่ได้จากการถือหุ้นประมาณ 1,100 ล้านบาท คิดเป็น 25 - 30 %ของกำไรสุทธิ รายได้ส่วนนี้ลงบันทึกในกำไรสุทธิทันทีไม่ต้องจ่ายภาษีเนื่องจากจ่ายผ่านบริษัทที่ถือหุ้นแล้ว
บทความที่เกี่ยวข้องกัน
QH AGM Y2015
No comments:
Post a Comment