รอบ 9 เดือน
รายได้ +8.6% YoY
กำไรสุทธิ +15.6% YoY (Net Profit Margin 13.5%)
Total Portfolio +7.9% YoY สินเชื่อส่วนบุคคลเติบโต 6.8% ในขณะที่บัตรเครดิตเติบโต 8.7%
การใช้จ่ายผ่านบัตร (Card Spending) +11.9% YoY ดีกว่าอุตสาหกรรมที่เติบโต 7.3%
NPL อยู่ที่ 2.2% เป็นของสินเชื่อส่วนบุคคล 1.0% และบัตรเครดิต 1.4%
ต้นทุนทางการเงิน 3.9% และ Net Interest Margin (NIM) อยู่ที่ 14.8%
สัดส่วนรายได้มาจากธุรกิจบัตรเครดิต 64% สินเชื่อส่วนบุคคล 35%
ธุรกิจบัตรเครดิต
การใช้จ่ายผ่านบัตรเติบโต 11.9% โดยมีส่วนแบ่งการตลาด 12.6% เมื่อจำแนกตามขนาดของพอร์ต และ 10.6% เมื่อจำแนกตามการใช้จ่ายผ่านบัตร
ตลาดการใช้จ่ายโดยรวมเป็นการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต 19.2% ส่วนที่เหลือเป็นการใช้จ่ายโดยเงินสด (ยังมีช่องให้เติบโต)
ธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคล
เติบโต 7.7% และมีส่วนแบ่งการตลาดที่ 5.8%
อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) ปัจจุบัน 5.7 เท่า ROE 26.3% สำหรับเป้ากำไรสิ้นปีที่ 2,000 ล้านบาท ไม่น่าจะมีปัญหา
ปี 2016 วางเป้ากำไรน่าจะใกล้เคียงกับปี 2015 เนื่องจากต้องการจะเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดให้มากขึ้นจึงจำเป็นที่จะต้องมีค่าใช้จ่ายทางการตลาดมากขึ้น โดยวางเป้าส่วนแบ่งการตลาดให้ได้ 15% ภายใน 2 - 3 ปี สำหรับรายได้ปี 2016 ต้องการเติบโตให้ได้ 15% ทั้งในส่วนของธุรกิจบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล
การตั้งสำรองปัจจุบันอยู่ที่ 8.6% ของ Total Portfolio ซึ่งสูงสุดในอุตสาหกรรม แต่คาดว่าตัวเลขคงไม่ถึง 9%
ระงับโครงการ E-wallet เนื่องจากพิจารณาแล้วอาจไม่คุ้ม
บทความที่เกี่ยวข้องกัน
KTC OppDay 2Q2015
No comments:
Post a Comment