ผลประกอบการ EBITDA +23.5%YoY NetProfit +24.4%YoY D/E 1.01 เท่า วงจรเงินสด -3.03 วัน ยอดขาย QoQ ลดลง 1% เนื่องจากลดการค้าส่งต้องการเน้น COCO มากกว่า
เป้าหมายปี 2015 SaleVolume เพิ่มขึ้น 15 - 20% EBITDA เพิ่มขึ้น 30 - 40% ปันผลไม่น้อยกว่า 30%
ปัจจุบันมีปั๊มน้ำมัน 1,052 สาขา เป้าหมายสิ้นปีปั๊มน้ำมัน 1,200 สาขา ปั๊ม LPG 30 สาขา เป้าหมายปี 2561 จะมีปั๊มน้ำมัน 2,400 สาขา (โดยจะเป็น COCO 2,000 สาขา) และมีปั๊ม LPG 300 สาขา
เขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล เปิดปั๊มใหม่ 5 สาขา อีก 14 สาขาอยู่ระหว่างดำเนินการที่จะเปิดภายในสิ้นปีนี้ ตั้งเป้าภายในปี 2561 จะมีปั๊มน้ำมันในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ไม่น้อยกว่า 100 สาขา
ความครอบคลุมของปั๊ม PT รายจังหวัดครอบคลุมแล้ว 98.7% รายอำเภอ 56.6% ตั้งเป้าหมายให้ครอบคลุม 100% ภายในปี 2561 (ไม่รวม 3 จังหวัดภาคใต้) โดยมีเป้ารายได้การขายน้ำมันจาก COCO ไม่น้อยกว่า 85%
สมาชิกบัตร PT MaxCard 3.2 ล้านราย อัตราการเพิ่มขึ้นของสมาชิก 100,000 รายต่อเดือน เดือนสิงหาคมทำได้ 120,000 ราย ตั้งเป้าหมายภายในปี 2561 จะมีสมาชิกอย่างน้อย 7.2 - 8 ล้านราย
PTG มีคลังน้ำมัน 9 แห่ง มีรถบรรทุกขนส่งน้ำมันเป็นของตัวเอง ค่าการตลาดประมาณ 1.50 บาทต่อลิตร ค่าการตลาดเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบๆ ค่อนข้างมีเสถียรภาพ ปริมาณการจำหน่ายน้ำมันเพิ่มขึ้นประมาณ 10,000 ลิตรต่อสาขาต่อเดือน
โครงการ PPP Green Complex หรือ Palm Complex ปัจจุบันอยู่ระหว่างการปรับพื้นที่
นโยบายลดการสำรองน้ำมันจาก 6% เหลือ 1% มีผลเดือนพฤศจิกายน 2015 จะทำให้มีเงินกลับมาประมาณ 300 - 400 ล้านบาท
ปี 2016 ขยายปั๊ม 300 สาขา อีกทั้งยังอยู่ระหว่างการศึกษาน้ำมันเครื่องแบรนด์ PT คาดว่าสามารถจำหน่ายได้ประมาณ Q1 ปี 2016
โครงการโรงงานเอทานอลทั้งจากน้ำตาลและมันสำปะหลังจะทราบความคืบหน้าประมาณช่วงสิ้นปีนี้
บทความที่เกี่ยวข้องกัน
PTG OppDay 3Q2015
No comments:
Post a Comment