ต่อจากตอนที่ 1
เท่าที่สังเกตผมรู้สึกว่ามาเวียดนามเที่ยวนี้ผู้คนในเวียดนามดูอวบอิ่มขึ้น ยังไม่อ้วนครับน่าจะเจ้าเนื้อมากขึ้น สองข้างทางในเมืองใหญ่จะมีร้านขนมนั่งทานเล่นเพิ่มมากขึ้นรวมถึงร้านกาแฟที่มีมากมาย พูดถึงร้านกาแฟก็นึกถึงร้านนี้ครับ Highland Coffee ที่มีข่าวแว่วๆ มาว่าอาจจะเข้าตลาดหุ้นในอนาคต Highland Coffee มีผู้ใช้บริการค่อนข้างแน่นโดยเฉพาะช่วงพักเที่ยง ไกด์บอกว่าคนที่เข้าร้านนี้จะเป็นกลุ่มวัยทำงาน โดยคนกลุ่มนี้ยังไม่นั่ง Starbucks เนื่องจากราคาสูงเกินไป แต่ในเวียดนามก็มีร้านกาแฟเปิดใหม่เกิดขึ้นมาเรื่อยๆ มีแบรนด์ใหม่ๆ ที่เริ่มได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น ร้านกาแฟในเมืองใหญ่ของเวียดนามมีแทบทุกถนน
สำหรับด้านการท่องเที่ยว ไกด์บอกว่าคนเวียดนามในเมืองนิยมออกไปเที่ยวต่างจังหวัดส่วนคนต่างจังหวัดก็จะนิยมมาเที่ยวในเมือง ผมคิดว่าคงเหมือนๆ กันทั่วๆ ไป ที่แต่ละคนอยากจะเปลี่ยนบรรยากาศจากที่ที่ตัวเองอยู่ การเที่ยวในเมืองก็อาจไปสวนสนุก หรือสวนน้ำ ส่วนการเที่ยวต่างจังหวัดส่วนมากที่ไปอาจเป็นเมืองดาลัด หรือซาปา ฯ ส่วนคนที่มีเงินมากหน่อยก็อาจไปเที่ยวต่างประเทศ เช่น เกาหลี จีน ไทย ญี่ปุ่น ฯ
ทุกๆ สถานที่ท่องเที่ยวที่ได้ไปไม่ว่าจะเป็น อุโมงค์กู๋จี พระราชวังเว้ วัดเทียนมู่ ฮอยอัน ฮาลองเบย์ หรือกระทั่งในตัวเมืองจะพบเห็นนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวนมากทั้งจากฝั่งตะวันตกและเอเชีย ไกด์บอกว่าก่อนหน้านี้นักท่องเที่ยวจากรัสเซียเข้ามาเยอะมากแต่หลังจากวิกฤตทางการเงินของรัสเซียทำให้นักท่องเที่ยวส่วนนี้หายไป นักท่องเที่ยวกลุ่มใหญ่ที่มาแทนมาจากประเทศจีนเป็นหลัก คงเหมือนกันกับหลายๆ ประเทศที่นักท่องเที่ยวจีนเป็นกลุ่มใหญ่ที่สุด
รถตู้ที่ผมได้ใช้บริการในการเดินทางท่องเที่ยวครั้งนี้เป็นยี่ห้อ Ford กับ Mercedes - BENZ เท่าที่สังเกตรถตู้ของคณะทัวร์อื่นๆ ก็มี 2 ยี่ห้อนี้เป็นหลักแทบจะไม่เห็นยี่ห้ออื่น ส่วนรถยนต์ที่คนเวียดนามใช้กันที่เห็นบ่อยจนติดตาคือรถยนต์ KIA รุ่น Morning ไกด์บอกว่าคนนิยมรถ KIA เนื่องจากราคาถูกแต่ถ้าคนมีเงินสักหน่อยจะขับรถหรูไปเลยอย่างพวก LEXUS หรือ Mercedes - BENZ รถยนต์กลุ่ม Honda หรือ Toyota มีพบเห็นบ้างแต่ไม่โดดเด่น ผมคิดว่าทั้งโฮจิมินห์และฮานอยมีสัดส่วนรถยนต์เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับจำนวนรถจักรยานยนต์ โดยเฉพาะที่ฮานอยสัดส่วนรถยนต์เพิ่มขึ้นมากจนแปลกตาไป ไกด์บอกว่าที่เป็นเช่นนั้นเพราะคนฮานอยเน้นเรื่องการดูดีไว้ก่อนการมีรถยนต์เป็นการบ่งบอกถึงสถานะอย่างหนึ่ง
สินค้าที่ใช้กันภายในเวียดนามจำนวนมากมาจากจีนแม้เวียดนามกับจีนจะมีข้อพิพาทเรื่องหมู่เกาะสแปรดลีย์ซึ่งสร้างความไม่พอใจต่อคนเวียดนามพอสมควรบางคนถึงกับแบนสินค้าจีน แต่เพราะสินค้าหลายชนิดของจีนราคาค่อนข้างถูกจึงมีคนใช้มาก มือถือที่ขายดีมากเป็นของ OPPO ไกด์บอกว่าเวลาซื้อมือถือเขามักจะซื้อจากร้านทั่วไปที่ไม่ใช่แบรนด์อย่าง thegiodidong ของ MWG เนื่องจากสามารถซื้อมือถือได้ในราคาถูกกว่าและสามารถขายคืนมือถือเก่าได้ สำหรับคนที่เข้าร้าน thegiodidong เขาต้องการความมั่นใจในการซื้อมากกว่าเลยยอมจ่ายแพงกว่า
การค้าขาย Online ก็ได้รับความนิยมในหมู่คนรุ่นใหม่ หนึ่งในไกด์ที่พาเที่ยวครั้งนี้มีภรรยาที่ขายของ Online ด้วย เขานำเข้าสินค้าจากไทยโดยฝากส่งทางรถโดยสารผ่านทางมุกดาหาร ลาว เข้าเวียดนาม บางครั้งไปรับทัวร์คนไทยแถบนครพนมก็ติดสินค้ากลับมาด้วย ไกด์บอกว่าสินค้าไทยได้รับความนิยมเพราะคุณภาพดี ไม่แน่ใจเหมือนกันครับว่าพูดแบบนี้เพราะลูกทัวร์เป็นคนไทยรึเปล่า การส่งสินค้าเมื่อมีผู้สั่งซื้อจะมีผู้ให้บริการขนส่งทำหน้าที่จัดส่งให้ ผมคิดว่าคงเหมือน NimExpress หรือ KerryExpress ในเมืองไทย ระหว่างทางที่นั่งรถไปสถานที่ต่างๆ ก็พบเห็นผู้ให้บริการขนส่งหลายเจ้าเหมือนกัน ไกด์บอกว่าถ้าเป็นของชิ้นเล็กๆ ค่าจัดส่งคิดเป็นเงินบาทประมาณ 50 บาท ระยะเวลาจัดส่งสินค้าประมาณ 2 - 3 วัน
เมืองที่ดูแปลกตาไปมากสำหรับผมในการเดินทางครั้งนี้คือเมืองดานังครับ ริมหาดดานังเมื่อสองปีที่แล้วอยู่ระหว่างการปรับปรุงพื้นที่ มีที่ว่างริมทะเลจำนวนมากที่ดูเหมือนถูกทิ้งร้างไว้ หลายแห่งก่อสร้างได้แค่เสาก็ถูกทิ้งร้างบางแห่งกั้นรั้วรอบพื้นที่แต่ลักษณะรั้วเหมือนถูกทิ้งไว้นานมาก กลับมาครั้งนี้พื้นที่เหล่านั้นกลับขึ้นไปตึกสูงเสียส่วนใหญ่ จำนวนมากอยู่ระหว่างการก่อสร้าง ที่สร้างเสร็จแล้วก็มีไม่น้อยเช่นกัน
ในตัวเมืองดานังสามารถพบเห็นการก่อสร้าง ปรับปรุง ตกแต่งเป็นระยะ เส้นทางระหว่าง ดานัง - ฮอยอัน ที่มีระยะทางประมาณ 25 กิโลเมตร พบว่าทุกๆ ประมาณ 20 หลังของบ้านริมถนนจะมีกองวัสดุก่อสร้างวางไว้หน้าบ้าน บางบ้านเป็นกองทราย กองหิน บางบ้านกองอิฐหรือกระเบื้องหลังคา บ้านหลายหลังเปลี่ยนหลังคาใหม่ ทาสีรั้วใหม่ ทาสีบ้านใหม่ บางหลังอยู่ระหว่างการต่อเติมปรับปรุงเป็นภาพที่เห็นได้ตลอดทาง ผมลองสังเกตในเส้นทาง ฮานอย - ฮาลองเบย์ ก็เห็นภาพไม่ต่างกันนักแต่ระยะห่างของการปรับปรุงอาจจะมากกว่าที่ดานัง
คนเวียดนามนิยมสร้างบ้านริมถนนทุกเส้นทางที่ผ่านเราจะเห็นตึกแถวริมถนน ไกด์บอกว่าถ้าอยู่ริมถนนสามารถค้าขายได้ ให้ลองสังเกตจะไม่ค่อยมีบ้านหลังไหนที่อยู่ริมถนนในเวียดนามปิดบ้านไว้เฉยๆ บางบ้านไม่รู้จะขายอะไรก็ขอให้มีตู้ขายบุหรี่ หรือขายน้ำก็ยังดี ผมก็เห็นตามนั้นบางทีด้วยความเป็นนักขายของคนเวียดนามจะช่วยให้เวียดนามสามารถก้าวกระโดดได้เร็วขึ้น
ประชากรเวียดนาม 80% ไม่นับถือศาสนาส่วนที่เหลือก็มีหลายศาสนาคละกันไป มาคราวนี้ไม่มีโอกาสไปเดินดูตามห้างสรรพสินค้าหรือในตลาดที่ผู้คนท้องถิ่นใช้ในการจับจ่ายในชีวิตประจำวัน คราวหน้าคงต้องหาโอกาสอีกที
ข้อมูลส่วนใหญ่ที่พูดถึงมาจากไกด์ที่พาผมเที่ยวตลอดทริปเพียง 3 คน ซึ่งผมนำมาผสมผสานกัน เป็นความเห็นของคนจำนวนน้อยอาจไม่ใช่ข้อเท็จจริงทั้งหมด โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านครับ
บทความที่เกี่ยวข้องกัน
Update เวียดนาม (1/2)
หาหุ้นเวียดนาม
COL OppDay 3Q2016
No comments:
Post a Comment