ต้นปี 2558 ผมแบ่งเงินลงทุน 1 ใน 3 ของพอร์ตไปลงทุนในตลาดหลักทรัพย์เวียดนาม ตลาดหลักทรัพย์เวียดนามมี 2 ตลาดหลัก คือ ตลาดโฮจิมินห์ (HOSE) กับตลาดฮานอย (HNX) เวลาเปิดปิดของ 2 ตลาดเหลื่อมกันเล็กน้อย
ปีที่ผ่านมาดัชนี VN INDEX ปิดตลาด ณ วันที่ 31 ธันวาคม ที่ 579.03 จุด เพิ่มขึ้น 6.12% เมื่อเทียบกับวันที่ 31 ธันวาคม ปี 2557 ซึ่งปิดตลาดที่ 545.63 จุด
การลงทุนในเวียดนามของผมเน้นกระจายการลงทุน โดยผมทำการคัดเลือกหุ้น 10 บริษัท แล้วแบ่งลงทุนในจำนวนเงินที่เท่ากัน กลุ่มที่คัดเลือกมาประกอบด้วย กลุ่มขนส่งและคลังสินค้า 4 บริษัท กลุ่มผลิตและจัดจำหน่ายไฟฟ้า 3 บริษัท กลุ่มยา 2 บริษัท และกลุ่มประปา 1 บริษัท
หุ้นกลุ่มขนส่งและคลังสินค้าให้ผลตอบแทนเป็นบวกทุกบริษัท โดยบวกสูงสุดที่ 52% แต่หุ้นในกลุ่มผลิตและจัดจำหน่ายไฟฟ้ากลับติดลบทั้ง 3 บริษัท ตั้งแต่ -18% ไปจนถึง ติดลบเกือบ 30% ส่วนกลุ่มยากับบริษัทประปารวมๆ กันแล้วค่อนข้างเสมอตัว ผลตอบแทนจากพอร์ตเวียดนามของผมเมื่อรวมผลจากอัตราแลกเปลี่ยนและเงินปันผลแล้วเป็นบวกประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ จากสัดส่วนพอร์ตลงทุน 1 ใน 3 ตอนนี้พอร์ตเวียดนามขยับขึ้นมาเป็น 40% ของพอร์ตรวม โดยส่วนตัวถือว่าน่าพอใจมากสำหรับการออกไปลงทุนต่างประเทศปีแรกที่ไม่ค่อยจะมีข้อมูลมากนัก
บริษัทที่ผมเลือกลงทุนในประเทศเวียดนามส่วนใหญ่เป็นบริษัทขนาดเล็ก บริษัทขนาดใหญ่สุดที่ถือหุ้นอยู่มี Market Cap คิดเป็นเงินไทยไม่น่าจะเกิน 5,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่จะมี Market Cap ต่ำกว่า 500 ล้านบาท สภาพคล่องต่ำถึงต่ำมาก
ด้วยความที่สภาพคล่องของหุ้นน้อยมากแม้แต่พอร์ตเล็กๆ ของผมก็ยังซื้อยาก ผมเคยทดลองหาวิธีการซื้อหุ้นโดยซื้อทุกราคาที่มีการวาง Offer ในวันนั้น (ได้หุ้นมาไม่ถึง 500 หุ้น) พอถึงช่วง ATC ก็ตั้งขาย 10 หุ้นที่ราคา Floor เพื่อที่วันรุ่งขึ้นจะได้ซื้อหุ้นในราคาเดิมอีก ปรากฏว่าวันรุ่งขึ้นไม่มีการวาง Offer แต่กลับมีวาง Bid ไว้ที่ Ceiling แถมพอปิดตลาดก็มีการซื้อขายที่ Ceiling 10 หุ้นซะงั้น วิธีการนี้จึงเป็นอันต้องล้มเลิกไป (Floor-Ceiling ของตลาด HOSE ประมาณ 6% ตลาด HNX เป็น 10% ส่วน Board Lot ของตลาด HOSE เป็น 10 หุ้น ตลาด HNX เป็น 100 หุ้น)
จากผลการลงทุนครั้งนี้พบว่าบริษัทที่ผมเลือกหุ้นโดยใช้อัตราส่วนทางการเงิน และดูผลประกอบการย้อนหลังในอดีตที่เติบโตต่อเนื่องสม่ำเสมอ (ตามข้อมูลที่พอจะหาได้) เป็นบริษัทที่ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าบริษัทที่ผมเลือกโดยความสนใจในอุตสาหกรรมนั้นแม้ผลประกอบการอาจไม่สม่ำเสมอบ้าง
แม้มีหุ้นหลายตัวที่ถืออยู่จะยังคงมีผลตอบแทนติดลบ ในระหว่างทางที่ถือหุ้นนั้นก็มีเงินปันผลมาปลอบใจให้ชุ่มชื้นอยู่บ้าง ลำพังสัดส่วนเงินปันผลจากหุ้นเวียดนามก็ดึงดูดมาก ปีนี้คงต้องตะลุยกันต่อไป
บทความที่เกี่ยวข้องกัน
บันทึกพอร์ตลงทุน ปี 2558
หุ้น MAS:HNX
No comments:
Post a Comment