สรุป OppDay หุ้น MALEE ไตรมาส 1 ปี 2017
MMBC กิจการร่วมค้าที่ฟิลิปปินส์ออก Product ตัวที่สอง "Jelly Vit" ช่วงกลางเดือนมีนาคม Exclusive กับทาง 7-Eleven ฟิลิปปินส์ประมาณ 2,000 สาขา ผลตอบรับดีขายได้ประมาณ 6 ชิ้น/สาขา/วัน เทียบกับ New Product ทั่วไปอัตราประมาณ 1.X ชิ้น/สาขา/วัน หลังจากพ้นช่วง Exclusive 2 เดือนจะเริ่ม Mass เข้าสู่ Retails อื่นๆ
ปีนี้คาดว่าจะสามารถทำยอดขาย New High ได้ แม้ไตรมาสแรกยังไม่ดีแต่คิดว่าไตรมาสต่อๆ ไปจะดีขึ้น
ตลาดน้ำผลไม้ 12 เดือนล่าสุด 13,903 ล้านบาท ลดลง 0.3% YoY Premium Market (100% RTD Fruit Juice) 5,245 ล้านบาท เติบโต 7% YoY คิดเป็น 38% ของตลาดรวม ผลิตภัณฑ์หลักๆ ของ MALEE อยู่ใน Premium Market มีบางส่วนอยู่ใน Medium Market และ Economy Market
ตลาด Premium UHT ไม่รวมพาสเจอร์ไรซ์ Market Value 4,872 ล้านบาท เติบโต 10% YoY Market Share ของ MALEE ลดลงจาก 22% เหลือ 20% แม้จะมีรายได้เพิ่มขึ้นเล็กน้อย Growth หลักๆ ของตลาดมาจากน้ำมะเขือเทศของดอยคำ และน้ำมะพร้าว Cocomax
สัดส่วนยอดขายมาจากในประเทศ 57% ต่างประเทศ 43% ถ้าแบ่งตาม Brand ยอดขายมาจาก Brand ของ MALEE เอง 45% ที่เหลือเป็น CMG (Contract Manufacturing) 55%
มองในแง่การเติบโต ในประเทศลดลง -13% (Brand -10% CMG -15%) ต่างประเทศเติบโต 22% (Brand +30% CMG +20%)
สินค้า New MALEE COCO ในขวด PET เพิ่งออกต้นเดือนพฤษภาคม เป็นน้ำมะพร้าวน้ำหอม 100% Feedback ถือว่าดี
ยอดขายไตรมาสแรกลดลง -1% YoY เป็นผลมาจากยอดขายในประเทศที่ลดลง ส่วนยอดขายต่างประเทศยังเติบโตได้ดีทั้ง Brand และ CMG
กำไรเพิ่มขึ้น 8% YoY เนื่องจากการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตและลดค่าใช้จ่ายการขาย
ผลขาดทุนจาก MMBC ไม่ได้ผิดปกติ ปัจจุบันเพิ่งมี Product แค่ 2 ตัว ประมาณปี 2019 MMBC น่าจะทำกำไรได้ จะออกสินค้าใหม่ประมาณ 2 - 3 Categories / ปี
Gross Profit Margin เพิ่มจาก 30.1% เป็น 31.3% ในขณะที่ Selling Expense / Sales ลดลงจาก 14.6% เหลือ 13.4% Net Profit Margin เพิ่มขึ้นจาก 7.1% เป็น 7.7%
Domestic Brand จะทำการ Clear Port ตัวไหนขายไม่ได้ดีมาก ไม่มีส่วนช่วยในการสร้างแบรนด์จะพิจารณาตัดออก
International Business จะมองหา Strategic Expansion มองหา Right Partner พาร์ทเนอร์ที่เหมาะสมซึ่งพิจารณาอยู่ต่อเนื่อง ประเทศหลักๆ ที่เน้นคือ Asian และจีน แต่จีนจะเป็นลักษณะของ Distributors มากกว่า
CMG จะเน้น Diversification กระจายความเสี่ยงทั้งตัว Product และตัวลูกค้า ปัจจุบันมีลูกค้า CMG ประมาณ 30 ราย
ผลประกอบการในฟิลิปปินส์คาดว่าจะมีกำไรในปี 2019 ระหว่างนี้จะขาดทุนลดลง จะ Improve ทุกปี
New MALEE COCO หวานกว่าตัวเดิม
ยอดขาย CMG ในประเทศที่ลดลงส่วนหนึ่งมาจากภาวะเศรษฐกิจและมีคู่แข่งรายใหม่เข้ามาด้วย แต่ลูกค้ายังคงอยู่เหมือนเดิม
CMG น้ำมะพร้าวสำหรับส่งออกยังโตอยู่
ลงทุนปีละประมาณ 500 ล้านบาท เสร็จสมบูรณ์ปี 2018 ค่าเสื่อมตัด 15 ปี
Production Capacity อยู่ที่ประมาณ 50% ช่วงนี้ line ผลิตขวด PET ยังไม่พร้อมจึงต้องว่าจ้างคู่ค้าทำไปก่อน
แผนการออกสินค้า 8 - 10 SKUs ต่อปี
งบการตลาดควบคุมไม่เกิน 14 - 15%
แผนการลงทุนปีนี้ยังอยู่ในแผนการลงทุนเดิมคือเป็นส่วนของโรงงานทั้งหมด ปรับปรุงโรงงาน เพิ่มประสิทธิภาพ เพิ่มโอกาสในการรับจ้างผลิตและผลิตแบรนด์ของตัวเอง
การเติบโตยัง On Plan ทั้งปีที่ตั้งไว้ 10 - 15% Growth ไตรมาส 3 จะสูงสุดเนื่องจากเป็นหน้าร้อนของต่างประเทศจะมีการสั่งสินค้าเข้าไปตุนตั้งแต่ปลายไตรมาส 2 ส่วนในประเทศยังคงทรงๆ
ต้นทุนน้ำมะพร้าวอาจสูงขึ้นจากการแย่ง Supply น้ำมะพร้าว การ Secure Supply ของ MALEE มีหลายแบบ เป็นการ Commit กันมากกว่า
พื้นที่การปลูกมะพร้าวน้ำหอมคิดว่าน่าจะเพิ่มขึ้นในขณะที่ปริมาณ Raw Mat น้ำมะพร้าวไตรมาส 3 จะสูงสุด
ยอดส่งออกปากีสถานลดลงบ้างเนื่องจากสินค้าส่วนใหญ่เป็นผลไม้กระป๋อง แต่ก็ยังเป็นประเทศหลักที่ Focus อยู่
CMG ทำสัญญาเป็น Cost Plus ถ้า Raw Mat ขึ้นก็ปรับขึ้นได้ แต่การพูดคุยอาจจะเป็นไตรมาส
ในประเทศปีนี้มองทรงๆ ทั้งปี ตัวส่งออกจะโตทั้งแบรนด์และ CMG แบรนด์ส่งออกจะโตได้ 25 - 30% แต่ CMG จะรู้ล่วงหน้าแค่ 1 เดือน สิ่งสำคัญสำหรับ CMG คือต้องบริการลูกค้าให้ดีที่สุด ปีนี้เน้นส่งออกและลูกค้า CMG รายใหม่ๆ
Sourcing น้ำมะพร้าวมาจากภายในประเทศ
Product กับ MEGA จะ Launch ประมาณไตรมาส 4
เป้า Net Profit Margin 2 digits ยังคงเป้าเดิมที่ปี 2018
ประเมินไว้ว่าภาษีสรรพสามิตใหม่จะมีเรื่องความหวานรวมเข้ามา แต่คิดว่าไม่น่าเสียเปรียบเครื่องดื่มอื่นๆ ปัจจุบันยังไม่มี rate ออกมา
Product ที่ 3 ที่ฟิลิปปินส์จะออกได้ปลายไตรมาส 3 ถึงต้นไตรมาส 4 แผนยังคงเดินหน้าอยู่ ต้องออก Product ให้ได้ 5 - 7 ตัวก่อน
CMG กาแฟเป็น Season ของการท่องเที่ยว ช่วงสงกรานต์ ปีใหม่ เทศกาลต่างๆ โดยเฉพาะหน้าร้อน
ที่จีนมี Distributors 4 ราย กระจายตามเมืองใหญ่ๆ ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ เสิ่นเจิ้น กวางโจว แต่ละเจ้ามีความถนัดแตกต่างกัน ยังเน้นแค่ First Tier
ตลาดเครื่องดื่มฟิลิปปินส์ประมาณ 400,000 ล้านบาท ใหญ่กว่าไทยแต่ความหลากหลายของสินค้าน้อยกว่า ปัญหาของฟิลิปปินส์คือการกระจายสินค้าซึ่งเป็นเกาะ 7,000 กว่าเกาะ ตลาดกาแฟประมาณ 40,000 ล้านบาทแต่ RTD coffee ไม่ถึง 1,000 ล้านบาท เล็กกว่าประเทศไทย แต่ตอนนี้มีรายใหม่เข้ามา 7 รายแล้วลดราคาสู้ ส่วน Product ที่สองยังไม่มีในตลาดจึงได้รับการตอบรับที่ดี
Link สำหรับดูคลิปย้อนหลัง MALEE OppDay 1Q2017
Link สำหรับเอกสารประกอบ PDF file
บทความที่เกี่ยวข้องกัน
MALEE AGM Y2017
THCOM OppDay 1Q2017
ติดตามด้วยครับ.. :)
ReplyDelete