• Home
  • OppDay
  • AGM
  • ตะลอนหุ้น
  • Food&Trip
  • About

August 24, 2015

KTC OppDay 2Q2015

       สรุป OppDay หุ้น KTC ไตรมาส 2 ปี 2015

ภาพรวม

       Portfolio รวม เติบโต +7.7%  แบ่งเป็น  บัตรเครดิต +8.9%  สินเชื่อส่วนบุคคล +5.8%  โดยมีสัดส่วนพอร์ตเป็นบัตรเครดิต 68% สินเชื่อส่วนบุคคล 31%  สำหรับสัดส่วนรายได้มาจากบัตรเครดิต 65%  สินเชื่อส่วนบุคคล 34%  KTC มี NPL ต่ำสุดในอุตสาหกรรมที่ 2.2%  เป็นส่วนของบัตรเครดิต 1.4%  สินเชื่อส่วนบุคคล 1.0%
 

       การใช้จ่ายผ่านบัตรเติบโต  +11.7%  ต้นทุนทางการเงินอยู่ที่ 4.1%  กำไรสุทธิเติบโต +26%  D/E ประมาณ 6.0
 

       ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม เริ่มใช้ Outsourcing ตามเก็บหนี้

ธุรกิจบัตรเครดิต
 

       สิ้นเดือนมิถุนายน  มีบัตร 1,895,916 ใบ  เติบโต +12% YoY  market share 9.1%  พอร์ตเติบโต 12.3%  สูงกว่าอุตสาหกรรมที่เติบโต 7.5%  การใช้จ่ายผ่านบัตรเติบโต 11.7% ดีกว่าอุตสาหกรรมโดยรวม  NPL 1.42%  น้อยกว่าอุตสาหกรรมที่ 3.23%
 

       กลยุทธสร้างความแข็งแรงของ Portfolio  มีลูกค้าใช้จ่ายผ่านบัตรเพิ่มขึ้น 100,000 ราย / เดือน โดยมีการเติบโตของแต่ละส่วนดังนี้
       Dining +17% มาจากการขยายพาร์ตเนอร์มากขึ้น 
       Shopping +10%  โดย Fasion +19%
       Gas & Auto  ด้านน้ำมันแม้ยอดใช้จ่ายจะลดลงเนื่องจากราคาน้ำมันที่ต่ำลงแต่จำนวนคนใช้จ่ายเพิ่มขึ้น +6%  ส่วน Auto +10%
       Travel&Leisure  KTCworld +60%  ส่วนท่องเที่ยว +15%
       Hotel  +15%
       ต่างจังหวัด  +13%  ปัจจุบันมีลูกค้าในกรุงเทพฯ 55%  ต่างจังหวัด 45%
       ต่างประเทศ  +10%
       Digital  +30%
 

       ธุรกิจบัตรเครดิตครึ่งปีแรกเติบโต 12%  เป้าสิ้นปีเติบโต 15%  เชื่อว่ายังอยู่ในเกณฑ์ที่ทำได้  เนื่องจากครึ่งปีหลังโดยปกติการใช้จ่ายจะเพิ่มขึ้น
 

ธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคล
 

       สิ้นไตรมาสมี 714,708 บัญชี  เติบโต 7.7%  market share ประมาณ 5%  NPL ลดลงต่อเนื่องอยู่ที่ 1.02%
 

       ธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลโตไม่มากเกิดจากการคัดกรองลูกค้า  แต่ภาพรวมก็สามารถเติบโตได้มากกว่าอุตสาหกรรม  จะไม่ตั้งเป้าการเติบโตในธุรกิจนี้โดยให้ขึ้นอยู่กับการคัดกรองเพื่อที่จะสามารถควบคุมระดับ NPL ได้
 

       การติดตามหนี้เหตุที่ต้อง Outsource ออกไป เพราะธนาคารแห่งประเทศไทยไม่ต้องการให้บริษัททำกำไรจากส่วนนี้  หลังจาก Outsource ไปแล้วก็จะไม่ดึงกลับมาทำเองอีก  แต่ยืนยันว่ามาตรฐานการติดตามหนี้จะไม่ลดลง
 

       ปีนี้จะบุกลูกค้าร้านค้าให้มากขึ้น  ปัจจุบันมีแล้วประมาณ 40,000 กว่าร้าน  อย่างน้อยต้องได้ 60,000 - 70,000 ร้านถึงจะ break event  นอกจากนี้ Digital Payment Platform ก็น่าจะสมบูรณ์ประมาณไตรมาส 4
 

       เหตุที่ NPL ต่ำลง  เนื่องจากผู้สมัครบัตรในชุดหลังๆ มีคุณภาพดีกว่าชุดก่อนหน้า  ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเครื่องคัดกรองตอนรับสมัครทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ  แม้รับลูกค้ามากขึ้นแต่ NPL ก็ไม่ได้เพิ่มขึ้น  คาดว่า NPL คงไม่ต่ำไปกว่านี้โดยจะพยายามรักษาในระดับปัจจุบันให้ได้นานที่สุด
 

       เรื่อง Coverage Ratio ไม่มีนโยบายที่จะเอาสำรองพิเศษกลับมา Write Back เป็นกำไร
 

       ดอกเบี้ยถ้าขึ้นจะมีผลกระทบต่อบริษัท  แต่เชื่อว่าดอกเบี้ยจะไม่ขึ้นในเร็วๆ นี้  ส่วนค่าเงินไม่มีผลกระทบต่อบริษัทโดยตรง
 

       ตั้งเป้ากำไรปีนี้ที่ 2,000 ล้านบาท  EPS 8 บาท / หุ้น  ปี 59 อยากให้กำไรโต 15%


บทความที่เกี่ยวข้อง
       KTC OppDay 3Q2015

No comments:

Post a Comment