ความร่มรื่นของนครโฮจิมินห์ซึ่งปกคลุมไปด้วยต้นไม้ขนาดใหญ่
ทั้งถนนสายหลักและสายรองมีต้นไม้ใหญ่ปรากฎให้เห็นตลอดช่วยให้บรรยากาศเมืองเหมาะแก่การเดินชมยิ่งนัก ผมเองได้มีโอกาสเดินทางออกไปถึงเขต 10
ซึ่งห่างจากศูนย์กลางเมืองพอสมควรคล้ายๆ จะเป็นโซนเมืองใหม่ ก็เห็นการปลูกต้นไม้ให้อยู่คู่กับเมืองเกือบตลอดทาง คิดว่าคนเวียดนามคงให้ความสำคัญกับต้นไม้ค่อนข้างมาก
ยวดยานที่สัญจรในนครโฮจิมินห์ค่อนข้างหนาแน่น เป็นสัดส่วนของจักรยานยนต์ประมาณ 70% การเดินข้ามถนนในเมืองก็เป็นที่เลื่องลือด้วยความที่มีรถจำนวนมากวิ่งต่อเนื่องกันแทบตลอดเวลา หลายแยกใหญ่ๆ ไม่มีสัญญาณไฟจราจร แต่รถในเวียดนามก็สามารถไหลผ่านกันไปได้เรื่อยๆ โดยไม่ชนกัน เทคนิคง่ายๆ ในการเดินข้ามถนนคือ เดินช้าๆ ด้วยความเร็วคงที่เดินไปเรื่อยๆ เดี๋ยวรถก็จะหลีกคุณเอง ฟังดูเหมือนง่ายครับแต่ปฏิบัติจริงครั้งแรกๆ น่าตื่นเต้นไม่ใช่น้อย
วันแรกที่เดินทางไปถึง รถเมล์สาย
152 ก็จอดที่ป้ายใกล้ตลาดเบนถ่าน (Ben Than) ครับป้ายรถเมล์เป็นเกาะอยู่กลางถนนที่ใหญ่มาก รถมาจากทุกทิศทางประกอบกับเสียงแตรที่ดูเหมือนจะคู่กับการขับรถในเวียดนามดังก้องตลอดเวลา
การจะเดินช้าๆ
ข้ามถนนมันไม่ใช่เรื่องง่ายซะแล้ว
ผมกับภรรยาหยุดยืนดูรถกับถนนกันพักใหญ่เห็นคนท้องถิ่นเดินข้ามไปมาเหมือนง่ายๆ สักพักเห็นกลุ่มนักท่องเที่ยวตะวันตกตัวโตๆ
กลุ่มหนึ่ง
ภรรยาผมปิ๊งไอเดียบอกว่าข้ามกับกลุ่มนี้สิ
อย่างน้อยโอกาสรอดมีสูง (ฮ่าๆ) เพราะมีคนตัวโตๆ คอยบังไว้ แล้วการข้ามถนนครั้งนั้นก็ผ่านไปได้ด้วยดีโดยไม่มีใครเป็นอะไร
หลังจากอยู่เวียดนามหลายวันเดินข้ามถนนหลายสิบครั้ง ผมเองกลับรู้สึกว่าการข้ามถนนที่เวียดนามไม่ยากนักและน่าจะปลอดภัยกว่าการข้ามในเมืองไทยซะด้วยซ้ำ อย่างน้อยรถก็วิ่งไม่เร็วมากแล้วรถก็สามารถหลบเราได้จริงๆ
บทความที่เกี่ยวข้อง
คิดถึงเวียดนาม 1
คิดถึงเวียดนาม 3
บทความที่เกี่ยวข้อง
คิดถึงเวียดนาม 1
คิดถึงเวียดนาม 3
No comments:
Post a Comment